เหล็กรูปพรรณ
เหล็กรูปพรรณคืออะไร
เหล็กรูปพรรณ คือ เหล็กชนิดหนึ่งที่ผ่านกระบวนการผลิตและแปรรูปเป็นรูปทรงต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับการงานแต่ละประเภท และช่วยให้เกิดความสะดวกสบายในด้านการใช้งาน เหล็กรูปพรรณมีหลายประเภท เช่น เหล็กรูปพรรณรีดร้อน เหล็กรูปพรรณขึ้นรูปเย็น เหล็กรูปพรรณเชื่อมประกอบ ซึ่งแต่ละประเภทมีลักษณะและการใช้งานที่แตกต่างกัน
เหล็กรูปพรรณมีคุณสมบัติที่ทนทานแข็งแรง สามารถรองรับต่อการสั่นสะเทือนที่เกิดจากแผ่นดินไหวได้ดี มีความยืดหยุ่นในด้านการออกแบบทางสถาปัตยกรรม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เหล็กรูปพรรณนิยมนำมาใช้ในงานก่อสร้างโครงสร้างอาคาร งานสถาปัตยกรรม งานโครงสร้างโครงหลังคา งานตกแต่งภายใน และงานเฟอร์นิเจอร์
เหล็กรูปพรรณมีความแข็งแรงอย่างไร
เหล็กรูปพรรณมีความแข็งแรงอย่างไร ขึ้นอยู่กับประเภท วิธีการผลิต และการใช้งานของเหล็กนั้น ๆ โดยทั่วไป เหล็กรูปพรรณมีคุณสมบัติดังนี้
- มีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงดึง แรงบิด และแรงกด
- มีความยืดหยุ่น สามารถดัด งอ หรือขึ้นรูปได้ตามความต้องการ
- มีความเหนียว สามารถรับแรงสั่นสะเทือน หรือแผ่นดินไหวได้
- มีความคงทน ไม่เปลี่ยนรูปทรง หรือเสื่อมสภาพง่าย
- มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
เหล็กรูปพรรณมีความยืดหยุ่นอย่างไร
เหล็กรูปพรรณมีความยืดหยุ่นอย่างไร ขึ้นอยู่กับประเภท วิธีการผลิต และการใช้งานของเหล็กนั้น ๆ โดยทั่วไป เหล็กรูปพรรณมีคุณสมบัติดังนี้
- มีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงดึง แรงบิด และแรงกด
- มีความยืดหยุ่น สามารถดัด งอ หรือขึ้นรูปได้ตามความต้องการ
- มีความเหนียว สามารถรับแรงสั่นสะเทือน หรือแผ่นดินไหวได้
- มีความคงทน ไม่เปลี่ยนรูปทรง หรือเสื่อมสภาพง่าย
- มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
เหล็กชนิดใดที่ใช้สำหรับการผลิตโครงสร้างอาคาร
เหล็กชนิดใดที่ใช้สำหรับการผลิตโครงสร้างอาคาร ขึ้นอยู่กับลักษณะ การออกแบบ และความต้องการของงานอาคารนั้น ๆ โดยทั่วไป เหล็กที่นิยมใช้ในงานอาคารมีดังนี้
- เหล็กเส้นคอนกรีต (Reinforced concrete) เป็นเหล็กเส้นที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงดึง แรงบิด และแรงกด ใช้เป็นส่วนประกอบของโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งมีประเภทเหล็กเส้นกลม (Round Bar) และเหล็กข้ออ้อย (Deformed Bar) ที่มีบั้งหรือครีบที่ผิวเพื่อเสริมกำลังยึดระหว่างเหล็กเส้นกับเนื้อคอนกรีต
- เหล็กรูปพรรณ (Structural Steel) เป็นเหล็กที่มีการแปรรูปออกมาเป็นวัสดุรูปทรงต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะสมกับการงานแต่ละประเภท และช่วยให้เกิดความสะดวกสบายในด้านการใช้งาน มีความยืดหยุ่นในด้านการออกแบบทางสถาปัตยกรรม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีประเภทเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน (Hot rolled structural steel) และเหล็กโครงสร้างรูปพรรณขึ้นรูปเย็น (Cold formed structural steel) ซึ่งมีความแตกต่างกันตั้งแต่กระบวนการผลิต และการนำไปใช้