ใช้รางระบายน้ำดียังไง
รางระบายน้ำคืออะไร
รางระบายน้ำคือรางที่ใช้ลำเลียงน้ำเสียออกจากพื้นที่บ้าน และอาคาร ไปสู่ท่อน้ำทิ้ง ก่อนปล่อยสู่บ่อบำบัดน้ำเสีย และปล่อยลงแหล่งน้ำสาธารณะ รางระบายน้ำมีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับวัสดุ รูปทรง และการใช้งาน โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ รางระบายน้ำคอนกรีต และ รางระบายน้ำเหล็ก
รางระบายน้ำคอนกรีตและเหล็กมีข้อได้เปรียบกันอย่างไร?
รางระบายน้ำคอนกรีตและเหล็กเป็นรางระบายน้ำที่มีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องของวัสดุ รูปทรง การใช้งาน และค่าใช้จ่าย โดยสรุปได้ดังนี้
- รางระบายน้ำคอนกรีต เป็นรางที่ทำจากคอนกรีตเสริมเหล็ก มีลักษณะเว้าเป็นรูปตัว U หรือ V มีบ่ารับฝาปิด หรือเปิดโล่ง มีการเว้นช่องไว้เพื่อระบายอากาศ หรือใช้ตะแกรงเหล็กแทนฝาคอนกรีต ข้อได้เปรียบของรางระบายน้ำคอนกรีตคือ ใช้งบประมาณในการก่อสร้างไม่สูงมากนัก สามารถทำความสะอาดดูแลได้ง่าย และเหมาะกับการระบายน้ำในปริมาณที่ไม่มากนัก
- รางระบายน้ำเหล็ก เป็นรางที่ทำจากเหล็กที่มีการชุบสารป้องกันสนิม มีลักษณะเป็นรางระบบปิดแบบปากแคบ มีฝาตะแกรงที่เคลือบสารป้องกันสนิม ข้อได้เปรียบของรางระบายน้ำเหล็กคือ มีความทนทานแข็งแรงมากกว่ารางระบายน้ำคอนกรีต สามารถรองรับน้ำหนักและแรงกดทับได้มาก และเหมาะกับการระบายน้ำในปริมาณมาก ๆ หรือในพื้นที่ที่มีการวิ่งผ่านของรถบ่อยครั้ง เช่น ที่จอดรถ หรือทางสัญจร
ทำไมถึงต้องใช้รางระบายน้ำ
รางระบายน้ำเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยลำเลียงน้ำเสียออกจากพื้นที่บ้าน และอาคาร ไปสู่ท่อน้ำทิ้ง หรือแหล่งน้ำสาธารณะ การใช้รางระบายน้ำมีประโยชน์หลายอย่าง เช่น
- ป้องกันปัญหาน้ำท่วมขัง หรือน้ำกัดเซาะบ้านหรืออาคาร
- ป้องกันแรงกระแทกของน้ำไปยังต้นไม้ และสวนรอบบ้าน
- ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา ซ่อมแซมบ้าน
- สามารถกักเก็บน้ำฝนเอาไว้ใช้อุปโภคเมื่อยามจำเป็น
รางระบายน้ำมีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับวัสดุ รูปทรง และการใช้งาน โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ รางระบายน้ำคอนกรีต และ รางระบายน้ำเหล็ก
รางระบายน้ำตอนกรีตมีกี่ประเภท
รางระบายน้ำคอนกรีตมีประเภทหลายแบบ ขึ้นอยู่กับลักษณะเว้า บ่ารับฝา และฝาปิด โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
- รางระบายน้ำรูปตัว U (U – Ditch) เป็นรางที่มีลักษณะเว้าเป็นรูปตัว U หงายขึ้นในลักษณะของระบบระบายน้ำแบบเปิด มีบ่ารับฝาปิด หรือเปิดโล่ง มีการเว้นช่องไว้เพื่อระบายอากาศ หรือใช้ตะแกรงเหล็กแทนฝาคอนกรีต ข้อได้เปรียบของรางระบายน้ำคอนกรีตคือ ใช้งบประมาณในการก่อสร้างไม่สูงมากนัก สามารถทำความสะอาดดูแลได้ง่าย และเหมาะกับการระบายน้ำในปริมาณที่ไม่มากนัก
- รางระบายน้ำรูปตัว V (V – Ditch) เป็นรางที่มีลักษณะโค้งเว้าไม่มาก ร่องระบายจึงตื้น ไม่ลึก แต่ก็ทำให้น้ำไหลลงไปยังร่องระบายน้ำได้ดี เหมาะสำหรับระบายน้ำในปริมาณหนึ่ง สามารถนำไปใช้งานในการลำเลียงน้ำ พร้อมกับให้รถวิ่งผ่านได้ในเวลาเดียวกัน เหมาะกับงานทำร่องสวน เชิงเขา ในอุตสาหกรรม หมู่บ้าน และ คลังสินค้า
- รางระบายน้ำรูปตัว O (O-GUTTER) เป็นรางน้ำระบบปิดแบบปากแคบ เหมาะสำหรับงานที่ต้องรับน้ำหนักมาก ๆ โดยตัวรางระบายน้ำคอนกรีตนี้ สามารถรองรับน้ำหนักกดทับบนท้องถนนได้มากถึง 52 ตัน แถมยังสามารถทำเป็นร่องน้ำได้ด้วย มี 2 รูปทรงด้วยกัน คือ O-Gutter และ O-Gutter Curve Stone ซึ่งแบบหลังนั้น จะมีร่องอยู่ด้านบน เวลาน้ำกระทบคันหินแล้วลงรางน้ำได้ทันที สามารถทำความสะอาดได้ง่ายกว่า มีความสวยงามกว่า แปรสภาพให้น่ามองมากขึ้น
รางระบายน้ำเหล็กมีกี่ประเภท
รางระบายน้ำเหล็กมีประเภทหลายแบบ ขึ้นอยู่กับลักษณะ ขนาด และการใช้งาน โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ
- รางระบายน้ำเหล็กแบบเปิด (Open Gutter) เป็นรางที่มีลักษณะเป็นรางระบบปิดแบบปากแคบ มีฝาตะแกรงที่เคลือบสารป้องกันสนิม ข้อได้เปรียบของรางระบายน้ำเหล็กแบบเปิดคือ มีความทนทานแข็งแรงมากกว่ารางระบายน้ำคอนกรีต สามารถรองรับน้ำหนักและแรงกดทับได้มาก และเหมาะกับการระบายน้ำในปริมาณมาก ๆ หรือในพื้นที่ที่มีการวิ่งผ่านของรถบ่อยครั้ง เช่น ที่จอดรถ หรือทางสัญจร
- รางระบายน้ำเหล็กแบบปิด (Closed Gutter) เป็นรางที่มีลักษณะเป็นรางระบบปิดแบบปากแคบ มีฝาปิดที่เป็นเหล็กหรือพลาสติก ข้อได้เปรียบของรางระบายน้ำเหล็กแบบปิดคือ ป้องกันกลิ่นเหม็นจากน้ำเสีย ป้องกันการเข้าถึงของสัตว์ และเพิ่มความสวยงามของพื้นที่ แต่ข้อเสียคือ ต้องทำความสะอาดบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการอุดตัน
- รางระบายน้ำเหล็กแบบเฉียง (Slope Gutter) เป็นรางที่มีลักษณะเป็นรางระบบปิดแบบปากแคบ มีฝาตะแกรงที่เคลือบสารป้องกันสนิม และมีการเอียงรางลงเข้าสู่ท่อน้ำทิ้ง ข้อได้เปรียบของรางระบายน้ำเหล็กแบบเฉียงคือ ช่วยให้น้ำไหลลงไปยังท่อน้ำทิ้งได้ง่ายขึ้น และลดการเกิดการอุดตัน แต่ข้อเสียคือ ต้องมีการวางรางให้เหมาะสมกับความลาดชันของพื้นที่
- รางระบายน้ำเหล็กแบบเกลียว (Screw Gutter) เป็นรางที่มีลักษณะเป็นรางระบบปิดแบบปากแคบ มีฝาตะแกรงที่เคลือบสารป้องกันสนิม และมีการเกลียวรางเข้ากับท่อน้ำทิ้ง ข้อได้เปรียบของรางระบายน้ำเหล็กแบบเกลียวคือ มีการติดตั้งที่แน่นหนา ป้องกันการรั่วซึมของน้ำ และลดการเกิดการอุดตัน แต่ข้อเสียคือ ต้องมีการวางรางให้เหมาะสมกับขนาดของท่อน้ำทิ้ง